วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Community College ทางเลือกการเรียนมหาวิทยาลัยในอเมริกาที่เสียค่าใช้จ่ายต่อปี ถูกที่สุด

ทางเลือกสำหรับการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอเมริกา แบบเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดใน 1 ปี คือการเรียนในสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรอนุปริญญา (2 ปี) หรือที่เรียกว่า Community College, Technical College หรือ City College ซึ่งข้อมูลจาก College Affordability and Transparency Center ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการเรียนที่สถาบันเหล่านี้ เฉลี่ยต่อปี อยู่ระหว่าง 560 - 2,527 US$ ต่อปีเท่านั้น

เมื่อเรียนจบจาก College เหล่านี้ จะได้รับอนุปริญญา หรือที่เรียกว่า Associate’s Degree ซึ่งสามารถใช้ทำงานได้ หรือหากสนใจจะเรียนต่อ ก็สามารถยืนเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยใช้เวลาเรียนต่อเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ก็จะได้รับปริญญา โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเรียนหลักสูตร 4 ปี


เรียนภาษา + Community College + University 

ทางเลือกสู่การเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย 

ที่คุ้มค่าที่สุด


อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว การเริ่มต้นเรียนต่อระดับปริญญาในอเมริกา โดยเรียนใน Community College เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าการเรียนมหาวิทยาลัยโดยตรงค่อนข้างมาก แต่การเข้าเรียนใน Community College นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เนื่องจาก College เหล่านี้ บางแห่งไม่ได้มีชื่อเสียงระดับประเทศ หรือเป็นรู้จักระดับโลก ทำให้การหาข้อมูล ทำได้ค่อนข้างยาก วิธีหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ คือการสมัครเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษในสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่มีเครือข่ายกับ Community College (ดูสถาบันแนะนำ คลิกที่นี่) ทำให้นักเรียนสามารถเลือกเรียนต่อได้ง่ายขึ้น



เรียนภาษา 1 ปี ที่อเมริกา ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่?


การศึกษา เปรียบเหมือนการลงทุน หากต้องการลงทุนให้คุ้มค่า สำหรับอนาคตที่ดีแล้ว การเรียนรู้ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย หรือสามารถประเมินค่าใช้จ่ายเรียนภาษาที่ต่างประเทศได้ จะช่วยให้การวางแผนศึกษาต่อ ทำได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

เป้าหมายของการเรียนภาษาที่ต่างประเทศนั้น แต่ละคนมีความแตกต่างกัน และความแตกต่างกันทางด้านวัตถุประสงค์เหล่านี้เอง ทำให้ระยะเวลาในการเรียนภาษาที่ต่างประเทศของแต่ละคน มีความแตกต่างกันด้วย บางคนอยากเรียนเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ก่อนกลับมาทำงาน (ซึ่งใช้เวลาเรียนประมาณ 3-6 เดือน น่าจะเพียงพอ) หรือบางคน ต้องการเรียนเพื่อใช้ในการศึกษาต่อระดับ ปริญญาตรี หรือโท ที่อเมริกา (อาจต้องใช้เวลาเรียนภาษาอังกฤษมากกว่า 6 เดือน หรือ 1 ปีขึ้นไป)

เมื่อเรารู้วัตถุประสงค์เบื้องต้นของตนเองแล้ว สิ่งที่ควรจะศึกษาต่อไป คือ งบประมาณคร่าวๆ ในการเดินทางไปเรียน






เรียนภาษา 1 ปี ที่อเมริกา ต้องจ่ายประมาณ 700-2,000 US$ ต่อเดือน?

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ JimmyESL.com (http://jimmyesl.com/study-english-in-the-united-states/cost-study-english-united-states/) ที่ระบุว่า สถาบันสอนภาษาต่างๆ ของอเมริกานั้น จะมีค่าใช้จ่าย สำหรับนักเรียนแต่ละคน ที่เรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่ 8,400-24,000 US$ ต่อปี ขึ้นอยู่กับเมือง สถานที่ และชื่อเสียงของโรงเรียน ถ้าเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีชื่อเสียงระดับ Top ของอเมริกา หรือโรงเรียนที่มีสาขามากมายทั่วโลก นักเรียนก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว อย่างไรก็ตาม หากไม่คำนึงถึงชื่อเสียง และเครือข่ายมากมายของโรงเรียนแล้ว นักเรียนสามารถเลือกโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีราคาย่อมเยาว์และคุ้มค่ากว่าได้ (ดูโปรโมชั่น เรียนภาษาที่อเมริกา แบบราคาคุ้มค่า คลิกที่นี่)

เรียนต่อมหาวิทยาลัยที่อเมริกา 1 ปี เท่าไหร่?


อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ topuniversities.com (http://www.topuniversities.com/student-info/student-finance/how-much-does-it-cost-study-us) ระบุว่า อเมริกา คือเป้าหมายยอดนิยมสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อปีโดยเฉลี่ยในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย 4 ปี อยู่ที่ 28,500 US$ ต่อปี ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเพียงแค่ค่าเฉลี่ยเท่านั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า สหรัฐอเมริกามีสถาบันการศึกษาระดับปริญญาตรี โท อยู่นับร้อยนับพันแห่ง

มหาวิทยาลัยอย่าง Cornell ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของอเมริกาแห่งหนึ่ง มีค่าใช้จ่ายระดับปริญญาตรี อยู่ที่ 41,541 US$ ต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งเป็นแค่ค่าเรียน ที่ยังไม่รวมค่าที่พัก ประมาณ 7,800 US$ ต่อปี ค่าอาหาร 5,354 US$ ต่อปี ค่าหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียน 800 US$ ต่อปี และค่าครองชีพทั่วไปประมาณ 1,630 US$ ต่อปี ทำให้ เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในรอบ 1 ปี ของการเรียนที่ Cornell จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นสูงถึง 57,125 US$ ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่มหาวิทยาลัยทุกแห่งของอเมริกา จะมีค่าใช้จ่ายสูงแบบ Cornell ยังมีสถาบันของรัฐที่เรียกว่า State College ที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า และสามารถเข้าเรียนได้ง่ายกว่า (ยกเว้น UCLA-University of California Los Angeles ที่เป็นสถาบันการศึกษาของรัฐ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อปีสูงถึง 55,000 US$ ต่อปี ในการเรียนหลักสูตร 4 ปี)

College Board องค์กรสนับสนุนนักเรียนของอเมริกา ระบุว่า ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสำหรับการเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน หลักสูตร 4 ปีในอเมริกา จะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณ 20,770 US$ ต่อปี อย่างไรก็ดี นักศึกษาในอเมริกาเองเกือบครึ่ง (44%) เลือกเรียนใน College มากกว่า มหาวิทยาลัย เนื่องจากการเรียนใน College นั้น ถูกกว่า เพราะเสียค่าใช้จ่ายไม่เกิน 9,000 US$ ต่อปี เท่านั้น

Source : เรียนภาษาที่ไทย หรือไปอเมริกา

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

ขอวีซ่านักเรียนอเมริกา ต้องเตรียมอะไรบ้าง?


เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร วีซ่าอเมริกา

  1. หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ในวันเดินทาง หากผู้สมัครมีหนังสือเดินทางเล่มเก่าที่มีวีซ่าสหรัฐฯ ก็สามารถนำมายื่นในวันสัมภาษณ์ได้ โดยประวัติการออกวีซ่าอเมริกาเดิมจะใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติ วีซ่าอเมริกา ด้วย
  2. แบบฟอร์ม DS-160
  3. รุปถ่ายขนาด 2*2 นิ้ว (5*5 ซ.ม.) พื้นหลังสีขาว ไม่มีขอบ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน หน้าตรง  ขนาดของใบหน้าต้องมากกว่าร้อยละ 50 ของรูป และต้องเห็นใบหู โปรดอย่าติดกาวหรือเย็บรูปถ่ายด้วย ลวดเย็บกระดาษลงบนช่องที่กำหนดให้บนแบบ ฟอร์ม DS-160 แม้ว่ารูปถ่ายดิจิทัลควรจะถูกอัพโหลดลงบนแบฟอร์มออนไลน์โดยตรง และจะปรากฏอยู่ที่หน้ายืนยันของแบบฟอร์มในวันสัมภาษณ์ วีซ่า อาจเกิดปัญหารูปถ่ายไม่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด และท่านอาจต้องยื่นรูปถ่ายจริงต่อแผนกกงศุลเพื่อแสกนลงในระบบ
  4. ใบเสร็จค่าธรรมเนียม การขอวีซ่า 5,120 (2012) บาท ชำระ ณ ที่ทำการไปรษณีย์
  5. ใบเสร็จค่าธรรมเนียม SEVIS I-901 $200 (2012) จ่ายผ่านเว็บไซด์ http://www.fmjfee.com
  6. แบบฟอร์ม I-20 หรือ DS-2019 ที่ออกให้โดยสถาบันการศึกษา หรือองค์กรแลกเปลี่ยนในสหรัฐฯ กรุณาเซ็นต์ชื่อและลงวันที่ในเอกสารด้วย
  7. ค่าธรรมเนียมจองวันสัมภาษณ์ (PIN) – 384 บาท (2012)
  8. หลักฐานการศึกษาของผู้ยื่นขอวีซ่า เช่น transcript ใบรับรองจบการศึกษา ใบรับรองสถานภาพภาพนักศึกษา
  9. หลักฐานการทำงานของผู้ยื่นขอวีซ่า (ถ้ามี) เช่น จดหมายรับรองการทำงาน จดหมายรับรองเงินเดือน จดหมายอนุญาตให้ลาไปเรียนต่อ
  10. หลักฐานทางการเงินของผู้ปกครองหรือสปอนเซอร์ ที่แสดงว่าผู้ปกครองหรือสปอนเซอร์มีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายของผู้ยื่นขอวีซ่าในขณะที่อยู่ในสหรัฐฯ  โดยอาจยื่นจดหมายรับรองฐานะทางการเงินที่ธนาคารออกให้ สมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ ฝากประจำ หรือบัญชีกระแสรายวัน ท่านควรยื่นเอกสารต้นฉบับ แผนกกงสุลไม่มีความจำเป็นต้องเก็บสำเนาเอกสารเหล่านี้
  11. หลักฐานการทำงานของผู้ปกครองหรือสปอนเซอร์ เช่น จดหมายรับรองการทำงาน จดหมายรับรองเงินเดือน
  12. จดหมายรับรองการเป็นสปอนเซอร์
  13. หลักฐานที่แสดงถึงการมีถิ่นพำนักถาวรภายนอกสหรัฐฯ การสมัครวีซ่านักเรียนถือเป็นการสมัครขอ วีซ่าอเมริกา ประเภทชั่วคราว ผู้สมัครต้องสามารถพิสูจน์ ให้เจ้าหน้าที่กงสุลเห็นว่าตนไม่มีความตั้งใจ จะอยู่ในสหรัฐฯเป็นการถาวร โดยผู้สมัครต้องสามารถแสดงหลักฐานที่แสดงถึงความผูกพันทางครอบครัว เศรษฐกิจ สังคมภายนอกสหรัฐฯ โดยการมีญาติ นายจ้าง หรือเพื่อนไม่สามารถเป็นหลักประกันได้ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สนับสนุนการเดินทาง เจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณาสถานการณ์เฉพาะบุคคลของผู้สมัครวีซ่าว่ามี คุณสมบัติควรได้รับ วีซ่าอเมริกา ด้วยตัวเองหรือไม่ โปรดทราบว่าเจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณาอนุมัติวีซ่าให้เป็นไปตามกฎหมายว่า ด้วยการเข้าเมืองและสัญชาติ (Immigration and Nationality Act – INA) โดยกฎหมายได้บัญญัติไว้ว่า “เมื่อใดก็ตามที่บุคคลใดยื่นความจำนงในการสมัคร วีซ่าอเมริกา ภาระในการพิสูจน์ว่าบุคคลนั้นมีคุณสมบัติจะอยู่ที่ตัวผู้สมัคร” กฎหมายการเข้าเมืองสหรัฐฯกำหนดให้เจ้าหน้าที่กงสุลต้องปฏิเสธการอนุมัติ วีซ่าอเมริกาแก่ผู้สมัครที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ว่าตนไม่มีความตั้งใจที่ จะอยู่ ในสหรัฐฯเป็นการถาวร


อ้างอิงจาก : http://www.upluzstudy.com/uvisa/เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร-วีซ่าอเมริกา-ของนักเรียน-มีอะไรบ้าง/